Connect with us

สุขภาพ

เมนูอาหารต้านหวัด

Published

on

เดี๋ยวร้อน เดี๋ยวฝน ยิ่งใกล้หน้าฝน หลังจากอากาศร้อนจัดจนตัวแทบไหม้ ร่างกายอาจปรับไม่ทัน ทำให้หลายคนเริ่มมีอาการหวัดถามหา น้ำมูกเริ่มมา จามเริ่มมี เสียงขาดหาย เราจึงมาชวนทำอาหารต้านหวัด เมนูสูตรอาหารเพื่อสุขภาพ เสริมภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย ทั้งในส่วนของอาหารและเครื่องดื่ม มีเมนูอะไรบ้าง ไปดูและลงมือทำกันเลยดีกว่าค่ะ

1. ซุปไก่มันฝรั่ง

เมนูอาหารต้านหวัดประจำบ้านของใคร ๆ หลายคน เนื่องจากไก่มีโปรตีน อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุ และยิ่งเป็นสูตรซุปไก่มันฝรั่งใส่พริกไทยดำ สมุนไพรรสเผ็ดร้อน ช่วยขับไล่หวัดได้ดี เสริมด้วยผักต่าง ๆ ยิ่งดีต่อสุขภาพ หายหวัดไว

ส่วนผสมซุปไก่มันฝรั่ง

ปีกไก่บน หรือ น่องไก่ 15 ชิ้น
มันฝรั่ง ปอกเปลือกหั่นเต๋า 1-2 หัว
หอมหัวใหญ่ ปอกเปลือกหั่นเต๋า 1-2 หัว
มะเขือเทศ หั่นเต๋า 5-6 ลูก
แครอทหั่นชิ้นพอดีคำ
รากผักชี และ ใบผักชี
พริกไทยดำ 10-15 เม็ด
น้ำปลา หรือ ซีอิ๊วขาว (สำหรับคนไม่ทานน้ำปลา) 1-2 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
เกลือ 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำซุปไก่มันฝรั่ง

ใส่น้ำประมาณ ½ ของหม้อต้ม นำขึ้นตั้งไฟปานกลาง
ใส่รากผักชี พริกไทยดำ มันฝรั่ง แครอท และ ปีกไก่ หรือ น่องไก่
ต้มจนน้ำเดือด หมั่นตักฟองอากาศและไขมันไก่ออก เพื่อให้น้ำซุปไก่ใส
ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาลทราย และ เกลือ ชิมรสตามชอบ
ใส่มะเขือเทศ และ หอมใหญ่
ต้มจนต่อผักสุก เมื่อผักสุกดีแล้วจึงปิดไฟ
ตักใส่ถ้วย และ โรยผักชี
พร้อมเสิร์ฟ

2. แกงเลียง

แกงเลียง คือ อาหารต้านหวัดอีกเมนูหนึ่ง เพราะมีสารพัดผักอุดมไปด้วยวิตามินแก้หวัดได้ดี ผนวกกับเครื่องเทศรสเผ็ดร้อนช่วยขับไล่อาการหวัดและความหนาวเย็นในร่างกาย

ส่วนผสมแกงเลียง

บวบ หั่นชิ้นพอดีคำ 150 กรัม
ฟักทอง หั่นชิ้นพอดีคำ 200 กรัม
ข้าวโพดอ่อน หั่นสไลด์ 150 กรัม
ใบแมงลัก 80 กรัม
เห็ด 150 กรัม
กุ้งสด 200-250 กรัม
น้ำซุปไก่ 3 ถ้วย
น้ำปลา หรือ ซีอิ๊วขาว สำหรับปรุงรส

ส่วนผสมน้ำพริกแกงเลียง

หอมแดง 3-4 หัว
กระชาย 2-3 แง่ง
พริกไทยดำ 1 ช้อนชา
กุ้งแห้งป่นละเอียด ⅓ ถ้วย
กะปิ 1 ช้อนชา

วิธีทำแกงเลียง

โขลกพริกไทย กระชาย และหอมแดงให้ละเอียด
ใส่กะปิและกุ้งแห้งลงไปโขลกให้เข้ากัน
ยกหม้อต้มน้ำให้เดือด
นำพริกแกงที่โขลกไว้แล้วใส่ลงน้ำต้มที่กำลังเดือด
ใส่ฟักทอง
เมื่อฟักทองเริ่มสุกจึงใส่ผักอื่น ๆ ตามลงไป
เมื่อผักสุก ใส่กุ้งสดลงไป
ปรุงรสด้วยน้ำปลาตามชอบ
ใส่ใบแมงลัก พร้อมตักเสิร์ฟ

https://www.gourmetandcuisine.com/

3. น้ำพริกมะขามป้อม

มะขามป้อม คือ ผลไม้วิตามินซีสูงมาก ช่วยแก้หวัด แก้ไอ ละลายเสมหะได้เป็นอย่างดี สูตรน้ำพริกมะขามป้อมนี้ใส่กะปิเผา กินแกล้มกับไข่เค็มและปลาสลิด

ส่วนผสมน้ำพริกมะขามป้อม
เนื้อมะขามป้อม ½ ถ้วย
กระเทียม 4-5 กลีบ
หอมแดงซอย 1 หัว
พริกขี้หนูสวน 10 เม็ด
กะปิเผา 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
ไข่เค็ม
ปลาสลิด
ผักสด เช่น ถั่วพลู แตงกวา มะเขือพวง

วิธีทำน้ำพริกมะขามป้อม

นำเนื้อมะขามป้อมไปโขลกให้พอละเอียด แล้วตักขึ้นพักไว้
โขลกหอมแดง กระเทียม และกะปิ ให้พอแหลก
นำเนื้อมะขามป้อมที่พักไว้ใส่ลงไปโขลกด้วยกัน
ใส่พริกขี้หนูสวนลงไปโขลกพอแตก
ปรุงรสด้วยน้ำปลาและน้ำตาลปี๊บ แล้วโขลกเคล้าให้เข้าเนื้อกันดี
ตักใส่ภาชนะ เสิร์ฟพร้อมไข่เค็ม ปลาสลิด และผักสดต่าง ๆ

4. เต้าฮวยน้ำขิง

รสชาติเข้มข้นของน้ำขิงเพียว ๆ อาจไม่ค่อยถูกปากสำหรับบางคนนัก แนะนำเมนูเต้าฮวยน้ำขิง ที่เพิ่มเต้าฮวยลงไปช่วยตัดความเข้มของรสชาติขิง ทำให้ดื่มง่ายขึ้น หรือจะเพิ่มความฟินด้วยปาท่องโก๋ตัวเล็กไปด้วย ก็อร่อยได้สุขภาพเช่นกัน

ส่วนผสมเต้าฮวย

เต้าหู้นิ่ม 1 ถ้วย
น้ำตาลทรายแดง 80 กรัม
น้ำตาลเดกซ์โตรส 40 กรัม
มอลโตเดกซ์ตริน 40 กรัม
สารให้ความคงตัว (seg) 2 กรัม
เกลือ 1 กรัม

ส่วนผสมน้ำขิง

ขิงแก่เผาไฟ 3-4 ชิ้น
น้ำสะอาด 5 ถ้วย
น้ำตาลอ้อย 1 ถ้วย
เกลือ 1 ช้อนชา

วิธีทำเต้าฮวยน้ำขิง

นำเต้าหู้นิ่ม น้ำตาลทรายแดง น้ำตาลเดกซ์โตรส มอลโตเดกซ์ตริน สารให้ความคงตัว และ เกลือ ใส่อ่างผสม ใช้ตะกร้อมือคนให้เข้ากัน
เทน้ำร้อนลงไป แล้วคนผสมให้เข้ากัน
นำไปตั้งไฟอ่อน ๆ เพื่อให้สารคงตัวละลาย
เมื่อน้ำเดือด ใส่ขิงลงไป
ใส่น้ำตาลอ้อย
ปล่อยให้เดือดประมาณ 5 นาที และยกลงตั้งพักไว้
ตักเต้าฮวยใส่ถ้วย เติมน้ำขิง
พร้อมเสิร์ฟ

Fresh green pandan leaf on table

5. น้ำใบเตยน้ำผึ้งมะนาวโซดา

เครื่องดื่มแก้หวัด ที่ทั้งอร่อยและดีต่อสุขภาพ แถมสวย ดูเก๋กู๊ด อย่างน้ำใบเตยน้ำผึ้งมะนาวโซดา อุดมไปด้วยวิตามินซีของมะนาว และน้ำผึ้งมีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย หอมกลิ่นใบเตย และซาบซ่าไปกับโซดา ดื่มง่ายและอร่อย หายหวัดอย่างไวเลยล่ะ

ส่วนผสมน้ำใบเตยน้ำผึ้งมะนาวโซดา

ใบเตยหั่นชิ้น
น้ำผึ้ง
น้ำดื่มสะอาด
น้ำมะนาว
โซดา
น้ำแข็ง (มีหรือไม่มีก็ได้)

วืธีทำน้ำใบเตยน้ำผึ้งมะนาวโซดา

ต้มน้ำให้เดือด
ใส่ใบเตยลงไปต้ม
เมื่อน้ำใบเตยเดือด ให้กรองด้วยผ้าขาวบาง
เทน้ำใบเตยที่กรองใส่แก้ว
เติมน้ำผึ้งและน้ำมะนาวและโซดา ตามรสชาติที่ชอบ
ใส่น้ำแข็ง (หรือจะดื่มแบบไม่ใส่น้ำแข็ง หากต้องการดื่มแก้ไอ)
คนให้เข้ากัน แล้วจัดเสิร์ฟ

Continue Reading
Click to comment

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

สุขภาพ

ระวัง! หมึกบลูริง สวยอันตราย โดนพิษถึงตาย 

Published

on

หมีกสายวงสีน้ำเงิน หรือ หมึกบลูริง (Blue – ringed Octopus) อยู่ในสายปลาหมึกยักษ์ (Hapalochlaena spp) แต่มีขนาดลำตัวเล็ก จุดเด่นคือลายวงแหวนสีน้ำเงินสะท้อนแสงได้ ซึ่งกระจายอยู่ตามลำตัวและหนวด หมึกบลูริงตัวโตเต็มวัยจะมีขนาดอยู่ที่ประมาณ 4 – 5 เซนติเมตร และหนวดมีความยาวประมาณ 15 เซนติเมตร เคลื่อนที่ด้วยการใช้หนวดเดิน ชอบหลบซ่อนตัวและอาศัยอยู่ตามซอกหินใต้ท้องทะเล สามารถพบได้ในทั้งในทะเลอันดามัน และ ทะเลอ่าวไทย 

ภาพจาก : https://www.forbesadvocate.com.au/story/7570384/can-you-identify-a-potentially-deadly-blue-ringed-octopus/

พิษของหมึกบลูริงร้ายแรงแค่ไหน

หมึกบลูริงเป็นสัตว์น้ำที่มีพิษร้ายแรงที่สุดในโลก โดยพิษของหมึกบลูริงร้ายแรงกว่างูมีพิษแบบงูเห่าถึง 20 เท่า และรุนแรงกว่างูทะเลอีกด้วย โดยพิษของหมึกบลูริง คือ Maculotoxin (มาคูโลทอกซิน) มีลักษณะคล้ายกับพิษเทโทรโดทอกซิน หรือ Tetrodotoxin เป็นพิษของปลาปักเป้า ออกฤทธิ์ทำลายระบบประสาท ไม่ให้สามารถเคลื่อนไหวได้ ทำให้เหยื่อตายหรือเป็นอัมพาต โดยพิษหมึกบลูริงจะอยู่ที่บริเวณต่อมน้ำลาย (Salivary gland) และพบได้ในปาก หนวด ลำไส้ และต่อมหมึก ดังนั้น การได้รับพิษของหมึกบลูริง เกิดจากการสัมผัส การถูกกัด หรือเผลอกินหมึกบลูริงเข้าไป ต่อให้นำหมึกบลูริงไปผ่านความร้อนหรือปรุงสุก แต่พิษก็ไม่ได้ถูกทำลายหรือสลายไป เพราะพิษหมึกบลูริงสามารถทนความร้อนได้ถึง 200 องศาเซลเซียส ดังน้้น ไม่ควรทานหมึกบลูริงเป็นอาหารเด็ดขาด 

 

เมื่อถูกหมึกบลูริงกัด หรือกินหมึกชนิดเข้าไป เปรียบได้เหมือนกับฉีดยาพิษเข้าเส้นเลือด เพราะพิศจะออกฤทธิ์อย่างรวดเร็ว ผู้ถูกพิษอาจเสียมีอาการแพ้พิษ หรือเสียชีวิตได้ในรายที่รุนแรงภายใน 2-3 นาที ซึ่งเร็วยิ่งกว่าพิษของปลาปักเป้า 

ภาพจาก : https://www.abc.net.au/news/science/2020-12-13/blue-ringed-octopus-bites-and-how-to-avoid-them/12942666

ผู้ที่โดนพิษของหมึกบลูริง มีอาการอย่างไร 

อาการเริ่มแรกของผู้ที่ถูกกัด หรือกินหมึกบลูริงเข้าไป จะมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ตาพร่า มองเห็นไม่ชัด หรือมองไม่เห็น ปวดศีรษะ ประสาทสัมผัสไม่ทำงาน กล้ามเนื้ออ่อนแรง พูดหรือกลืนน้ำลายไม่ได้ หายใจไม่ออก เนื่องจากกล้ามเนื้อกะบังลมและหน้าอกไม่ทำงาน ทำให้ไม่มีอากาศเข้าสู่ปอด จากนั้นจะเป็นอัมพาต และหยุดหายใจเนื่องจากสมองขาดออกซิเจน และเสียชีวิตอย่างรวดเร็วหากได้รับการช่วยเหลือไม่ทัน 

หมึกบลูริงมีพิษร้ายแรง แต่ทำไมจึงมีคนนำมาปรุงเป็นอาหารจำหน่ายจนกลายเป็นข่าว 

ต้องยอมรับว่าตามลักษณะของหมึกบลูริง ที่มีสงแหวนสีน้ำเงินเรืองแสงได้ ประกอบกับขนาดที่เล็ก ทำให้หมึกบลูริง หรือหมึกสายวงน้ำเงิน กลายเป็นที่นิยมของกลุ่มคนผู้ชื่นชอบเลี้ยงปลาสวยงาม รวมไปถึงกลุ่มคนนิยมเลี้ยงสัตว์แปลก ๆ แม้ว่ากรมประมงจะไม่อนุญาตให้นำเข้าหมึกบลูริงเข้าประเทศ แต่ก็ยังมีคนลักลอบนำเข้าเพื่อจำหน่ายหรือเพื่อเลี้ยงดูตามความชอบส่วนตัว อีกทั้งมีหน่วยงานราชการที่เลี้ยงหมึกสกุลนี้ไว้เพื่อการศึกษา จนกระทั่งในต้นปี ค.ศ.2016 ได้พบหมึกบลูริงถูกวางจำหน่ายบนแผงขายอาหารทะเล โดยปะปนมากับหมึกชนิดอื่น ๆ และพบถูกนำมาจำหน่ายในร้านปิ้งย่างที่เพิ่งเป็นข่าวเร็ว ๆ นี้นั่นเอง 

 

รักษาอย่างไรเมื่อได้รับพิษหมึกบลูริง 

ปัจจุบันยังไม่มียารักษา หรือยาต้านพิษหมึกบลูริง หากเผลอกินหรือถูกหมึกบลูริงกัด ควรรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลให้เร็วที่สุด และระหว่างนำตัวส่งแพทย์ อาจใช้วิธีเป่าปาก (หากไม่มีเครื่องช่วยหายใจ) เพื่อนำอากาศเข้าสู่ปอด เพื่อช่วยยื้อเวลาของการขาดออกซิเจน ที่อาจทำให้ผู้ได้รับพิษเสียชีวิตอย่างรวดเร็ว ดังนั้น วิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันพิษหมึกบลูริง คือ หลีกเลี่ยงการเข้าใกล้ เพื่อไม่ให้ถูกหมึกบลูริงกัด และห้ามบริโภคอย่างเด็ดขาด โดยก่อนทานอาหารทะเล โดยเฉพาะเมนูปลาหมึก จะต้องสังเกตลักษณะของหมึกให้ดี หากไม่แน่ใจ ก็อย่าไปเสี่ยงเลย รับประทานอาหารชนิดอื่นแทน เพื่อลดโอกาสความเสี่ยงในการได้รับพิษหมึกบลูริงดีกว่าค่ะ 

Continue Reading

สุขภาพ

บอกทริค ใช้โรลออนระงับกลิ่นกายยังไงไม่ให้ทิ้งคราบเหลือง

Published

on

Disgusted young male wearing checkered shirt and glasses smelling wet sweaty armpit after stressful meeting, feeling nauseous, screwing lips. Black man can't stand bad smell. Hyperhidrosis and hygiene

เชื่อว่าหลายคนมีการใช้ผลิตภัณฑ์ลดเหงื่อ รักแร้มีกลิ่น ไม่ว่าจะเป็นโรลออน สเปรย์ หรือฝงแป้ง ซึ่งล้วนแต่เป็นผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกาย และเป็นไอเทมคู่ใจของคนที่มีปัญหากลิ่นตัว เพราะช่วยดับกลิ่นอับตามมุมซอกต่าง ๆ  โดยเฉพาะรักแร้ ช่วยให้หมดกังวลเรื่องกลิ่น เพิ่มความมั่นใจได้มากขึ้น (more…)

Continue Reading

สุขภาพ

อันตรายจากแสงสีฟ้า (Blue light) ภัยเงียบต่อสุขภาพดวงตา

Published

on

เชื่อว่าหลายคนรู้กันอยู่แล้วว่า แสงสีฟ้าจากโทรศัพท์มือถือของเรามีอันตรายต่อดวงตา รวมไปถึงหน้าจอคอมพิวเตอร์ แต่รู้ไหมว่าสารมารถพบแสงสีฟ้าได้จากธรรมชาติด้วยเช่นกัน 

(more…)

Continue Reading

กำลังมาแรง